วันพุธที่ 21 มกราคม 2558
เวลาเรียน 8.30-12.20 น.
เวลาเข้าเรียน 8.30 เวลาเข้าสอน 8.30 เวลาเลิกเรียน 12.20
วันนี้อาจารย์ให้ทบทวนร้องเพลง "นม" อีกครั้ง หลังจากคาบที่แล้วให้กลับไปฝึกซ้อมมา ครั้งนี้เพื่อนๆเกือบทุกคนร้องเพลงนมด้วยความมั่นใจถึงแม้จะมีบางคนร้องเพี้ยนบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อทุกคนร้องไปพร้อม กันฟังแล้วก็ถือว่าร้องได้ดีมากๆเลย
หลังจากร้องเพลงนมเสร็จ อาจารย์มีเพลงใหม่มาสอนร้องเพิ่มอีก 4เพลง ให้นักศึกษาฝึกร้องไปพร้อมๆกัน คิดว่าหลายๆคนคงคุ้นเคยกับเพลงเหล่านี้มาก่อน เพลงที่อาจารย์สอนเพิ่มทั้งหมด4 เพลง มีเพลงแปรงฟัน เพลงพี่น้องกัน เพลงอาบน้ำ เพลงมาโรงเรียน
ผู้แต่งคือ อ.ศรีนวล รัตนสุวรรณ
อาบน้ำซู่ซ่า ล้างหน้าล้างตา
ฟอกสบู่ถูตัว ชำระเหงื่อไคล
ราดน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดตัว
อย่าให้ขุ่นมัว สุขกายสบายใจ
ตื่นเช้าเราแปรงฟัน
กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน
ก่อนนอนเราแปรงฟัน
ฟันสะอาดขาวเป็นเงางาม
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
บ้านของฉันอยู้ด้วยกันมากหลาย
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า ตา ยาย
มีทั้งน้า อา พี่และน้องมากมาย
ทุกคนสุขสบาย เราเป็นพี่น้องกัน
เรามาโรงเรียน เราเขียนเราอ่าน
ครูเล่านิทานสนุกสุขใจ
เราเรียนเราเล่น เราเป็นสุขใจ
ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน
เพลงบางเพลงสามารถนำไปใช้ร้องกับเด็กพิเศษเมื่อต้องการให้เด็กทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งเพลงถือเป็นสื่อที่ดีที่สามารถสื่อความหมายให้เด็กรับรู้และเข้าใจได้ง่ายโดยที่คุณครูไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่งสั่งเด็กให้ทำ เด็กพิเศษบางคนที่ได้ฟังเพลงสามารถมีพฤติกรรมตามเพลงได้ดี เช่น เพลงอาบน้ำหรือเพลงแปรงฟัน คนที่เป็นคุณครูอนุบาลจำเป็นต้องร้องเพลงเหล่านี้ให้ได้และคุณครูต้องมีความใจเย็น ไม่ควรคาดหวังกับเด็กมากและต้องเชื่ออยู่เสมอว่าเด็กจะสามารถพัฒนาได้
เนื้อหาที่ได้เรียนในวันนี้ อาจารย์เริ่มสอนเข้าสู่เนื้อหาที่เกี่ยวกับรายวิชานี้คือ การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
1.การศึกษาปกติทั่วไป (Regular Education) เป็นรูปแบบการศึกษาเดียวที่มีเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว สำหรับให้เด็กปกติทั่วไปเรียน
2.การศึกษาแบบพิเศษ (Special Education) เป็นการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเรียนโดย เฉพาะ
3.การศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
4.การศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education)
การศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้าไปเรียนในระบบการศึกษาทั่วไป เมื่อเด็กเข้ามาศึกษาแล้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษและเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกันเด็กปกติและเด็กพิเศษจะเรียนอย่างเท่าเทียมกัน โดยคุณครูจะทำแผนการศึกษาพิเศษ (IEP) เฉพาะสำหรับเด็กพิเศษ ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน เด็กที่เรียนร่วมจะอยู่ในความดูแลของศูนย์การศึกษาพิเศษ
การเรียนร่วมมี2แบบ
1.การเรียนร่วมบางเวลา (Integration)
เป็นการจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา เด็กพิเศษที่เรียนร่วมบางเวลานี้จะต้องเป็นเด็กพิเศษที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมากซึ่งไม่อาจเรียนร่วมเต็มเวลาได้
กิจกรรมที่มักนำมาจัดให้เด็กพิเศษเช่น กิจกรรมดนตรี ศิลปะ เคลื่อนไหว เป็นต้น
2.การเรียนร่วมเต็มเวลา(Mainstreaming)
เป็นการจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียนเด็กพิเศษจะได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้และบริการนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ เด็กพิเศษที่เรียนร่วมเต็มเวลานี้จะต้องเป็นเด็กพิเศษที่มีอาการน้อยเท่านั้น เป้าหมายของการจัดการเรียนร่วมแบบเต็มเวลานี้ก็เพื่อให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน ฝึกการใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้อื่น ช่วยเหลือกันและกันรู้จักการเอาใจใส่ซึ่งกัน
หน้าที่สำคัญของคุณครูในการดูแลเด็กเมื่อมีการเรียนร่วมกันของเด็กพิเศษและเด็กปกติ
ครูต้องบอกเพื่อนร่วมชั้นของเด็กว่าเด็กเป็นอะไร บอกให้เพื่อนในห้องของเด็กเข้าใจเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือดูแลกันและกัน การเลือกใช้คำพูดในการบอกเด็กๆก็สำคัญ ครูควรมีลักษณะวิธีการในการพูดกับเด็ก ไม่ควรเลือกใช้คำพูดที่ตรงมากเกินไปหรือคำพูดที่อาจทำร้ายจิตใจเด็กได้
การศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education)
เป็นการจัดการศึกษาสำหรับทุกคน Education for all เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติตั้งแต่เข้ารับการศึกษา โดยจัดการศึกษาให้กับเด็กทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดเป็นเด็กปกติหรือเด็กพิเศษ และจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา
เด็กพิเศษควรได้รับการศึกษาแบบเรียนรวมตั้งแต่มีอายุในช่วงปฐมวัยเนื่องจากเด็กในช่วงวัยนี้อยู่ในช่วงที่สมองมีการพัฒนาอย่างสูงสุดคือช่วงอายุ0-7 ปี เซลล์สมองจะมีการพัฒนาอย่างเต็มที่พร้อมที่จะเรียนรู้ เป็นช่วงเวลาที่เด็กมีการพัฒนาทางการรับรู้ ภาษา สังคม อารมณ์และกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากในช่วงวัยนี้เด็กได้รับการกระตุ้นและประสบการณ์ที่ดีเด็กก็จะมีการเรียนรู้ที่ดี
เป็นการจัดการศึกษาสำหรับทุกคน Education for all เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติตั้งแต่เข้ารับการศึกษา โดยจัดการศึกษาให้กับเด็กทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดเป็นเด็กปกติหรือเด็กพิเศษ และจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา
ความสำคัญของการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
ปฐมวัยเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนรู้ สอนได้ง่าย
เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด
เด็กพิเศษควรได้รับการศึกษาแบบเรียนรวมตั้งแต่มีอายุในช่วงปฐมวัยเนื่องจากเด็กในช่วงวัยนี้อยู่ในช่วงที่สมองมีการพัฒนาอย่างสูงสุดคือช่วงอายุ0-7 ปี เซลล์สมองจะมีการพัฒนาอย่างเต็มที่พร้อมที่จะเรียนรู้ เป็นช่วงเวลาที่เด็กมีการพัฒนาทางการรับรู้ ภาษา สังคม อารมณ์และกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากในช่วงวัยนี้เด็กได้รับการกระตุ้นและประสบการณ์ที่ดีเด็กก็จะมีการเรียนรู้ที่ดี
หลังจากเรียนในเนื้อหาเสร็จอาจารย์มีข้อสอบ Post test หลังเรียนมาให้นักศึกษาทำเพื่อทบสอบความรู้หลังเรียนว่านักศึกษาแต่ละคนเข้าใจในสิ่งที่ได้เรียนในวันนี้มากน้อยเพียงใด
-การนำเพลงมาใช้กับเด็กพิเศษ สามารถนำประโยชน์ที่ได้จากการร้องเพลงนำไปใช้ในการร้องเพลงเมื่อต้องการให้เด็กพิเศษมีพฤติกรรมตอบสนองหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเช่นร้องเพลงอาบน้ำเมื่อต้องการให้เด็กอาบน้ำ ซึ่งการร้องเพลงเป็นวิธีการที่ง่ายเมื่อเด็กได้ฟังแล้วเด็กจะรู้สึกอยากอาบน้ำโดยที่ครูไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่ง วิธีการที่ยุ่งยากหรือต้องบังคับเด็กเลย
-วิธีการในการเลือกใช้คำพูดของครูเมื่อต้องการบอกเพื่อนๆในห้องของเด็กให้รู้เกี่ยวกับตัวเด็กพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการเลือกใช้คำพูดที่ทำร้ายจิตใจเด็กไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
- ได้รู้ความจำเป็นในการพัฒนาเด็กพิเศษในช่วงปฐมวัยว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเรียนรู้ดังนั้นควรที่จะให้ความสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาเด็กได้อย่างเหมาะสมและถูกวิธีเพื่อที่จะให้เด็กมีการพัฒนาที่ดีขึ้นได้
วันนี้มาเรียนก่อนเวลาเลยทำให้มีเวลาเดินไปช่วยอาจารย์ถืออุปกรณ์การสอน ก่อนการเรียนในเนื้อหาอาจารย์พาร้องเพลงและฉันได้ร้องเพลงเพี้ยนๆไปบ้าง รู้สึกสนุกดีที่ได้ร้องเพลงไปพร้อมๆกันกับเพื่อน วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มเรียนในเนื้อหาของวิชาจริงๆหลังจากเรียนเสร็จแล้วก็ไม่คิดว่าอาจารย์เตรียมข้อสอบPost test มาด้วย รู้สึกตกใจมากกลัวทำข้อสอบไม่ได้แต่พอเห็นข้อสอบแล้วก็คิดว่าตัวเองทำได้บ้างแต่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกต้องหรือไม คิดว่าตนเองอาจตอบคำถามได้ไม่ครอบคลุมและไม่ชัดเจน ครั้งหน้าคิดว่าต้องเตรียมตัวในการอ่านเนื้อหาก่อนการเรียนมาให้พร้อมจะได้เข้าใจเนื้อหาในห้องเรียนได้เร็วขึ้นและง่ายในการทำข้อสอบ
ประเมินเพื่อน
วันนี้บรรยากาศในห้องเรียนดูแปลกใหม่เนื่องจากมีเพื่อนๆภาคนอกเวลามารวมเรียนด้วยทำให้ห้องเรียนดูอบอุ่นมากกว่าเดิม ได้รู้จักเพื่อนต่างกลุ่มลักษณะนิสัยการแสดงออกของเพื่อนๆแต่ละคนซึ่งบางคนก็เป็นผู้ใหญ่เหมือนจะทำงานแล้วตอบคำถามอาจารย์ได้ดี วันนี้การเรียนครึกครื้นยิ่งกว่าเก่ามีเพื่อนในห้องเรียนจำนวนมากเลยทำให้ได้ยินเสียงเพื่อนบางกลุ่มพูดคุยบ้าง แต่ก็มีหลายคนที่ตั้งใจเรียนตั้งแต่ต้นคาบเรียนจนจบคาบเรียน
ประเมินอาจารย์
วันนี้ก่อนเริ่มการเรียนอาจารย์พานักศึกษาร้องเพลงทำให้นักศึกษาทุคนมีความสุขและสนุกสนานกันถ้วนหน้าแม้บางคนจะร้องถูกบ้างผิดจังหวะบ้าง ถึงแม้นักศึกษาในห้องเรียนจะเยอะและดูหนาแน่นมากแต่อาจารย์ก็พยายามเดินดูนักศึกษาและถามคำถามนักศึกษาอย่างทั่วถึง เพื่อนบางคนนั่งข้างหลังแต่อาจารย์ก็พยายามหันมองขณะสอน บางคนที่ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจอาจารย์ก็จะถามว่าเข้าใจไหมถ้าไม่เข้าใจอาจารย์ก็จะอธิบายให้เข้าใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น